"โครงการสัมมนาธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในการบริหารงานของมหาวิทยาลัย ในกำกับของรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565”


โครงการสัมมนาธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในการบริหารงานของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา

หลักการและเหตุผล
หลักธรรมาภิบาล หรือ การบริหารจัดการที่ดี (Good Governance) เป็นหลักสำคัญ
ในการบริหารและการปฏิบัติงานจะต้องมีความสุจริต โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้ง
เป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกในการทำงานและความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง นอกจากนี้ ยังต้อง
มีการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และนำไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กรได้
อีกด้วย จึงต้องนำหลักธรรมาภิบาลไปปรับใช้กับการบริหารงานของมหาวิทยาลัย พร้อมทั้ง
สร้างทัศนคติใหม่ปลูกจิตสำนึกของคนไทยร่วมต้านภัยการทุจริต ทั้งนี้ กลไกการนำหลักธรรมาภิบาล
ซึ่งประกอบด้วย ความชอบธรรม ความโปร่งใส ความรับผิดชอบและการตรวจสอบได้
ความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และการมีส่วนร่วมของประชาชนไปเป็นแนวทางในการบริหารจัดการนั้น ปรากฏอยู่ในบทบัญญัติของกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน
ซึ่งได้วางกรอบการนำหลักธรรมาภิบาลไปเป็นแนวทางการบริหารงานขององค์กรต่าง ๆ ของภาครัฐ
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการนำหลักธรรมาภิบาลไปเป็นแนวทางการบริหารงานของหน่วยงานหรือองค์กรนั้น ปัจจุบันยังคงอยู่บนความหลากหลายในองค์ประกอบหลักของธรรมาภิบาล ซึ่งประกอบด้วยหลักนิติธรรม (Rule of Law) หลักคุณธรรม (Integrity) หลักความโปร่งใส (Transparency)
หลักความรับผิดชอบและการตรวจสอบได้ (Accountability)และหลักความคุ้มค่า (Value for money) และหลักการมีส่วนร่วม (Participation)
ปัจจุบันการบริหารงานและการปฏิบัติงานภายในหน่วยงานของรัฐ จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจถึงสาระสำคัญของกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐจึงมีความจำเป็นต้องส่งเสริมให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัยได้รับการศึกษา เรียนรู้ และสนับสนุนให้มีการเพิ่มพูนความรู้เพื่อลดปัญหาการปฏิบัติงานที่ผิดพลาด ตลอดจนปัญหาการสอบสวนตามหลักการของพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ขั้นตอนการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ดังนั้น มหาวิทยาลัยพะเยาได้เล็งเห็นความสำคัญของการเสริมสร้างองค์ความรู้
ความเข้าใจการบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาลของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัย
และเพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เสริมสร้างจิตสำนึกและความตระหนักในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปราศจากการก่อให้เกิดข้อสงสัยในการประพฤติ การขัดกันแห่งผลประโยชน์และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และเพื่อเสริมสร้างให้มหาวิทยาลัยพะเยาบริหารงานด้วยความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยพะเยาจึงได้จัดโครงการสัมมนาดังกล่าวขึ้น
 

วัตถุประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบรามการทุจริตและการคุ้มครองสิทธิเจ้าหน้าที่ของรัฐในมหาวิทยาลัย การกระทำที่เป็นการละเมิดของบุคลากรมหาวิทยาลัย การบังคับทางปกครอง การบังคับคดีปกครอง และการยื่นบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐในมหาวิทยาลัยพะเยา
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถเข้าใจถึงหลักการและเหตุผล
ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และทราบขั้นตอนการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิด
ของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
3. เพื่อให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัยนำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้
ในการบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาลและมีความโปร่งใส เพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุผลสัมฤทธิ์
และเกิดประโยชน์สูงสุด

วิทยากร
1.นายโกวิท ศรีไพโรจน์
อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 8
2.นายอนุชา ฮุนสวัสดิกุล
รองอธิบดีศาลปกครองเชียงใหม่
3.นายอรรณพ ศักดิ์ศิริญดากุล
ผู้พิพากษาและเลขานุการศาลยุติธรรมประจำภาค 6
4.นายณัฏฐ์พงษ์ สมศักดิ์
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
5.นางสาวกาญจนพิฬดา ศักดิ์ศิริญดากุล
รองอัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดแพร่


    เพิ่มข่าวโดย: chaturaphat.ta วันที่/เวลา: 2022-08-14 10:15:49
แชร์ :